John Riccitiello CEO ของ Unity ลาออกจากตำแหน่ง

ในประกาศของ Unity, บริษัทได้กล่าวว่า Riccitiello จะ "เกษียณ" จากตำแหน่งของเขาและจะออกจากคณะกรรมการบริษัท "ทันที" แทนที่เขา, Jim Whitehurst ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานบริษัท IBM จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO ใหม่ ในขณะที่ Roelof Botha, ที่เคยเป็นกรรมการอิสระหลักของคณะกรรมการ Unity, จะรับหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการ.

เดือนที่ผ่านมา, Unity ได้เปิดเผยแผนใหญ่ที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักพัฒนาที่สมัครสมาชิกตามจำนวนการดาวน์โหลดของแต่ละเกม ค่าธรรมเนียม "Runtime Fee" ที่เสนอขึ้นมานั้นถูกคิดว่ามีค่าใช้จ่ายมากเกินไปและไม่เป็นที่ยอมรับในวงการ จนกระทั่งนักพัฒนาชั้นนำหลายคนได้ขึ้นเสียงว่าจะยกเลิกโปรเจ็คที่ใช้ Unity และหันไปหาเอนจินเกมอื่น หาก Unity ไม่เปลี่ยนแผน.

Botha ได้กล่าวในคำแถลงการณ์ว่า "John ได้นำ Unity มาตลอดการเติบโตที่น่าทึ่งในช่วงเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา, ช่วยให้เราเปลี่ยนจากการอนุญาตถาวรเป็นโมเดลการสมัครสมาชิก, ทำให้นักพัฒนาสามารถทำเงินได้, สร้างบริการเกมอื่น ๆ เพื่อให้บริการกับชุมชนผู้สร้างสรรค์ของเรา, นำเราผ่านการ IPO และวางตำแหน่งเราให้เป็นผู้บุกเบิกในชุมชนนักพัฒนา"

แต่การพยายาม "ทำเงิน" จากเกมนั้นเองทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในตอนแรก ความไม่พอใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม Runtime ได้กระทบลงถึงชุมชนเกมเมอร์ และชื่อของ Riccitiello ก็กลายเป็นที่เกลียดชังในวงการเกมทั้งหมด นอกจากนี้ยังยากที่จะบอกว่าแผนการตั้งราคาใหม่ของผู้บริหาร Unity ได้รับการยอมรับอย่างไรในบริษัท ตำรวจซานฟรานซิสโกได้กล่าวว่ามีพนักงาน Unity คนหนึ่งทำความหมายถึง "ความคุกคามที่น่าเชื่อถือ" ต่อนายจ้างของเขา แม้ว่าพนักงานคนนั้นจะไม่ทำงานที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในแคลิฟอร์เนีย

ใช้เวลาเพียงห้าวันก่อนที่บริษัทจะถอยหลังและประกาศว่ามีโซลูชันที่เป็นมิตรกับทีมพัฒนามากขึ้น โมเดลการตั้งราคาใหม่จำกัดค่าธรรมเนียมของนักพัฒนาโดยพิจารณาจากว่าเกมทำรายได้น้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์ในปีแรกที่เปิดตัว แต่ทีมที่วางแผนการเปิดตัวในปี 2024 จะต้องเสียค่าธรรมเนียม Runtime อยู่ดี แม้ว่าจะมีการพยายามทำให้สถานการณ์เยือกเย็นลง แต่กลุ่มนักพัฒนาอย่างเป็นทางการแรก ๆ ที่ใช้เอนจิน Unity ก็ได้แตกแยกเพราะโมเดลการตั้งราคานี้

สำหรับนักพัฒนาหลายคน, ความไว้วางใจใน Unity ได้หายไปแล้ว นักพัฒนา Slay the Spire ที่ชื่อ Mega Crit ได้ประกาศว่าเกมต่อไปที่ยังไม่ได้เปิดเผยจะย้ายไปใช้เอนจินอื่น "แม้ว่าทีมงานของเราจะใช้เวลาและความพยายามมากมายในการพัฒนา"

Riccitiello ได้กลายเป็นจุดอักเสบในความตระหนักของชุมชนเกมเมอร์มานานแล้ว เขาเคยทำงานในฐานะ CEO ของ Electronic Arts ตั้งแต่ปี 1997 ถึง 2004 และ 2007 ถึง 2013 เขาได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับ Unity หลังจากนั้น และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขามีชื่อเสียงในฐานะคนที่เรียกนักพัฒนาที่ไม่ทำเงินจากเกมของพวกเขามากเกินไปว่าเป็น "คนโง่" เขายังได้กล่าวว่าเกมต้องการ "วนซ้ำความต้องการ" ยาวนานเป็นชั่วโมงเพื่อดึงดูดผู้เล่นให้ติดกับผลิตภัณฑ์ของพวกเขามากขึ้น

CEO ที่ลาออกจาก Unity นี้ได้กลายเป็นตัวแทนของความไม่พอใจของเกมเมอร์ต่อสถานะปัจจุบันของการเผยแพร่ การเน้นเกินไปที่การทำธุรกรรมจิ๋ว, ระบบกล่องสุ่ม, และการเก็บเงินที่มากเกินไปทำให้ความสนุกสนานที่ควรจะมีมากมายในเกมที่ยอดเยี่ยม หรือเพียงแค่เกมที่ยอมรับได้ ถูกทำลายลง แผนของ Unity ที่บังคับให้นักพัฒนาขนาดเล็กจ่ายเงินเพื่อใช้สิทธิ์ในเอนจินนั้นจะเพียงแค่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายเหล่านั้นถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภค, ไม่ว่าจะเป็นราคาที่แพงขึ้นหรือ, ที่เป็นไปได้มากกว่า, ด้วยการทำเงินในเกมที่มากขึ้น.

ที่มา:gizmodo